เที่ยวนครปฐมไฮไลท์สำคัญในจังหวัดทั้งวัดและตลาดอันเก่าแก่
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนกำลังวางแผนไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กันอยู่แน่ ๆ เลย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเก่าอย่าง "จังหวัดนครปฐม" กันค่ะ หลังจากที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม ชวนให้เราไปร่วมกิจกรรม Car Free Day 2014 โครงการดี ๆ ที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หันมาใช้จักรยานเป็นทางเลือกในการประหยัดพลังงาน ที่ได้ทั้งการออกกำลังกาย, สุขภาพแข็งแรง และยังได้ท่องเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นไฮไลท์สำคัญในจังหวัดนครปฐมอีกด้วย ว่าแล้วเราไปตะลุยที่เที่ยวพร้อม ๆ กันเลยจ้า
เริ่มต้นการออกตัวกันที่บริเวณลานหน้าพระร่วง หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับ "พระปฐมเจดีย์" ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม อีกทั้งยังเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร รวมถึงมีประวัติความเป็นมายาวนาน
วัดศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
เราเริ่มประเดิมเที่ยวนครปฐมกันด้วยการเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ "วัดศีรษะทอง" ซึ่งชื่อเดิมคือ "วัดหัวทอง" ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตั้งอยู่ในตำบลห้วยตะโก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ไฮไลท์สำคัญภายในบริเวณวัดศีรษะทอง คือ เป็นที่ประดิษฐานของพระราหู ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อได้เดินทางมากราบไหว้แล้วถือเป็นการขอพรให้พ้นเคราะห์ต่าง ๆ อีกทั้งยังดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ ช่วยให้การงานเจริญก้าวหน้า และเชื่อว่าพระราหูยังเป็นเทพบูชาประจำตัวเพื่อเสริมบารมีของคนที่เกิดวันพุธกลางคืนอีกด้วย
ซึ่งสิ่งของที่นำมากราบไว้จะต้องประกอบด้วยของดำ 8 อย่าง เช่น ไก่ดำ, เหล้า, กาแฟดำ, องุ่นดำ, เฉาก๊วย, ถั่วดำ, ข้าวเหนียวดำ, ขนมเปียกปูน และไข่เยี่ยวม้า เป็นต้น โดยสามารถไหว้บูชาพระราหูได้ทุกวัน (ยกเว้นวันพระ) สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากแวะไปกราบไหว้เพื่อความร่ำรวย ที่วัดศีรษะทองก็เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0 3422 7462
ตลาดท่านา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
จากนั้นเราเดินทางไปต่อกันที่ "ตลาดท่านา" ซึ่งนับได้ว่าเป็นตลาดสดที่มีอายุเก่าแก่ก่อตั้งคู่วิถีชีวิตของชาวชุมชนริมแม่น้ำนครชัยศรีมากว่า 140 ปี แถมภายในยังคงมีการอนุรักษ์วิถีชีวิตและการค้าชายดั้งเดิมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอีกด้วย สำหรับที่มาของชื่อตลาดท่านา คือ ในสมัยก่อนบริเวณนี้เต็มไปด้วยพื้นที่นาปลูกข้าว และบริเวณที่ตั้งริมแม่น้ำทำให้ที่นี่กลายเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าและเป็นท่าขึ้นข้าวในอดีต
นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงตลาดจะเรียงรายไปด้วยตึกแถวสร้างด้วยไม้ที่มีอายุกว่า 90 ปี ที่ถือเป็นความสวยงามที่ชาวตลาดท่านาร่วมกันอนุรักษ์ไว้ ส่วนภายในตลาดจะเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายทั้งอาหารคาว-หวานนานาชนิด รวมทั้งผัก ผลไม้ และสมุนไพรแปรรูป เช่น ฟักข้าว
"ไส้กรอกโบราณ" เมนูอาหารโบราณมีให้เลือก 3 ไส้ ได้แก่ หมู, กุ้งและเผือก ห่อด้วยฟองเต้าหู้แล้วนำไปทอดให้มีรสชาติกรอบนอกนุ่มใน
"ลูกลานเชื่อม" ของหวานที่หายากและทำยากสามารถทานได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งกว่าที่ต้นลานจะออกผลิตต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไปเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อต้นลานออกดอกออกผลแล้วต้นจะตายทันที
"ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน"
รวมทั้งแวะที่ร้านหน่อยเบเกอรี่ ชิม "ขนมมาม่อนจัง" ขนมไทยโบราณ ลักษณะคล้ายชิฟฟ่อน เนื้อนุ่มหอมกรุ่น อบสดใหม่ตากเตาทุกวัน ที่มีให้เลือกกว่า 30 หน้า รวมทั้งขนมปังสังขยาที่มีให้เลือกทั้ง สังขยาใบเตยและชาเย็น โดยทางร้านเปิดให้บริเวณทุกวัน เวลา 07.30-19.30 น. โดยตัวร้านตั้งอยู่ข้างตลาดท่านา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 08 9885 4442, 0 3422 8154
ตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
มาต่อกันที่สถานที่ช้อปปิ้งสำหรับคนรักสุขภาพกับ "ตลาดสุขใจ" ตลาดปลอดสารพิษที่จำหน่ายทั้งผักและผลไม้สดปลอดสารพิษส่งตรงจากสวน, ส้มโอปลอดสารพิษคุณภาพส่งออก, ไข่ไก่และไข่เป็ดอารมณ์ดี, เห็ดนานาชนิด, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารและสมุนไพร รวมทั้งสินค้างานประดิษฐ์ฝีมือชาวบ้านหลากหลายประเภท
ภายในยังมีร้านจำหน่ายอาหารคาว-หวานให้เลือกทานหลายชนิด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับพาครอบครัวมาเที่ยวชิมอาหารอร่อย ๆ ในบรรยากาศใต้ร่มไม้สุดร่มรื่น
ตะกร้าบริเวณด้านหน้าตลาดสำหรับใช้ซื้อของภายในตลาด เพื่อลดการใช้พลาสติก
สินค้าเกษตร และผักปลอดสารพิษ ผลิตจากเกษตรกรสวนเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ
วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ออกเดินทางกันต่อไปยังวัดชื่อดังของจังหวัดนครปฐม "วัดไร่ขิง" ตั้งอยู่ที่ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม บนฝั่งแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำนครชัยศรี
ภายในวัดมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นอย่างมาก ภายในเขตวัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เขตศาสนสถานและเขตสาธารณสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงเรียนและโรงพยาบาล
วัดไร่ขิง เป็นวัดที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างเมื่อใด แต่อาศัยจากคำบอกเล่าว่า สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2394 สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา เมื่อสร้างวัดเสร็จได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาจากวัดศาลาปูน ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาประดิษฐานไว้เป็นพระประธานวัด ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อวัดไร่ขิง" เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยแบบประยุกต์ หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้ว สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ ลักษณะผึ่งผายคล้ายสมัยเชียงแสน พระหัตถ์เรียวงามตามแบบสุโขทัย พระพักตร์ดูคล้ายรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานเหนือฐานชุกชี พระอุโบสถ เป็นทรงโรง ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ฝาผนังก่ออิฐถือปูนหน้าบันเป็นลายพุดตาล ติดช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสลับสี
ซุ้มประตูเป็นลายปูนปั้นเครือเถา บานประตูด้านนอกเป็นลายรดน้ำรูปท้าวจัตุโลกบาล ด้านในเป็นภาพสีรูปอสูรยักษ์ เซี้ยวกาง บานหน้าต่างเป็นลายรดน้ำรูปต้นไม้พร้อมด้วยสิงสาราสัตว์ ด้านในเป็นภาพเขียนสีรูปดอกไม้ ส่วนซุ้มหน้าต่างเป็นรูปปูนปั้นลายเครือเถา รอบพระอุโบสถมีวิหารประจำทิศต่าง ๆ ทั้งสี่ทิศ หน้าบันใช้ปูนปั้นเป็นลายเทพพนม ไม่มีซุ้มประตูหน้าต่าง ศาลาจตุรมุข ตั้งอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของอุโบสถเป็นศาลาทรงไทย
บริเวณด้านข้างของวัดมีการจัดสถานที่สำหรับร่วมบูชาพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา
ส่วนด้านหน้าจัดแสดงรูปปั้นของศิลปินชื่อดังที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้แก่ จิ๋ว พิจิตร, ล้อต๊อก และยอดรัก สลักใจ เพื่อร่วมบริจาคทรัพย์สมทบกองทุนช่วยศิลปิน
"ลุงเอี่ยม" หรือ "นายเอี่ยม คัมภิรานนท์" ถือเป็นขอทานใจบุญที่นั่งต้อนรับผู้ที่เข้ามาทำบุญด้วยความยิ้มแย้มตลอดเวลา และนำเงินจากผู้บริจาคส่งมอบให้วัดเพื่อนำไปซ่อมแซมโบสถ์ของวัดเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้วัดไร่ขิงเป็นวัดที่พุทธศาสนิกชนรู้จักกันดี นิยมเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิงกันอยู่เสมอ ทุกวันศุกร์และเช้าอาทิตย์ ที่บริเวณริมแม่น้ำหน้าวัดเป็นเขตอภัยทานร่มรื่น มีปลาสวายตัวโตนับพันอาศัยอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมปังเลี้ยงอาหารปลาบริเวณด้านหลังของวัดได้อีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0 3431 1384, 0 3432 3056
ตลาดน้ำดอนหวาย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ปิดท้ายทริปกันที่ตลาดชื่อดังของจังหวัดนครปฐมอย่าง ตลาดน้ำดอนหวาย ที่ยังคงมีการอนุรักษ์ เอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะเรือนไม้ริมแม่น้ำท่าจีนที่ยังคงสภาพตลาดเก่าในสมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้เป็นอย่างดี
เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักปลอดสารพิษและขนมไทยโบราณ ไปจนถึงอาหารคาวที่นิยมมาก อาทิ ปลาตะเพียนต้มเค็ม, ปลาสลิด, เป็ดพะโล้นายหนับ, เป็ดพะโล้นายโอ, ขาหมูทอดกรอบ และหน่อไม้ต้มใบย่านางเคียงคู่น้ำพริกหลากหลายชนิด เป็นต้น
สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะแวะเที่ยวที่ตลาดน้ำดอนหวายแห่งนี้ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. และมีเรือบริการนำเที่ยวชมทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน
ถือว่าเป็นทริปสั้น ๆ ที่สามารถเดินทางไปเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว เพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยแวะไปเที่ยวเมืองนครปฐมลองตามรอยเส้นทางการท่องเที่ยวที่เรานำมาฝากกันได้ค่ะ รับรองว่าจะได้ทั้งอิ่มอร่อย ได้รับมิตรไมตรีจากชาวนครปฐม และได้ความเป็นสิริมงคลกับบ้านอีกด้วย
แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น